ในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน นิสัยของแฮร์รี่เริ่มเปลี่ยนไป อารมณ์โกรธของเขารุนแรงขึ้นเนื่องจากเขาเชื่อว่าซิเรียส แบล็กเป็นผู้ทรยศ ทำให้พ่อแม่ของเขาต้องตาย และไปอยู่ฝ่ายเดียวกับโวลเดอมอร์ จนกระทั่งแฮร์รี่พบว่าซิเรียสนั้น เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของพ่อ และยังเป็นพ่อทูนหัวของเขาอีกด้วย และแฮร์รี่ก็พบว่าไม่ใช่ซิเรียสที่เป็นคนทรยศพ่อแม่ของเขา แต่เป็นอดีตเพื่อนของพ่อและซีเรียส ปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ซึ่งเป็นข้ารับใช้ของลอร์ดโวลเดอมอร์ ในตอนท้ายของเล่ม ซิเรียสเสนอสิ่งที่แฮร์รี่ปรารถนามาตลอดชีวิต คือให้ไปอยู่กับเขาในบ้านที่ห่างไกลจากครอบครัวเดอร์สลีย์ แฮร์รี่ตอบรับข้อเสนอในทันที แต่สูญเสียโอกาสนี้ไปเนื่องจากซิเรียสจำเป็นต้องหนีจากการจับกุมของทางการที่ยังเชื่ออยู่ว่าซิเรียสเป็นฆาตกร
ในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี เขากลายเป็นจุดสนใจของคนรอบข้างอีกครั้ง เมื่อกลายเป็นผู้เข้าแข่งขันในการประลองเวทไตรภาคี ซึ่งทำให้เพื่อนร่วมบ้านกริฟฟินดอร์ต่างยินดี ยกเว้นรอน ผู้รู้สึกว่าเรื่องนี้เหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เขาหมดความอดทนด้วยความที่แฮร์รี่เด่นกว่าเขาในทุกๆ ด้าน รวมถึงบ้านอื่นๆ ที่คิดว่าเขาต้องการเรียกร้องความสนใจ โดยเฉพาะบ้านฮัฟเฟิลพัฟที่มีเซดริก ดิกกอรี่ที่เป็นตัวแทนของฮอกวอตส์อีกคนหนึ่ง แฮร์รี่คืนดีกับรอนในเวลาต่อมา เนื่องจากรอนเห็นแล้วว่าการประลองดังกล่าวอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ในขณะเดียวกันแฮร์รี่และเพื่อนก็สงสัยว่าใครเป็นคนหยอดชื่อของเขาลงไปในถ้วยอัคนี แต่หลังจากที่แฮร์รี่เผชิญหน้ากับลอร์ดโวลเดอมอร์ผู้กลับคืนชีพอีกครั้ง เขาจึงทราบว่าเป็นแผนของโวลเดอมอร์นั่นเอง ในการเผชิญหน้าครั้งนี้แฮร์รี่รอดมาได้อย่างหวุดหวิดจากการที่ไม้กายสิทธิ์ของเขามีแกนกลางเป็นขนนกฟินิกซ์เหมือนกับของโวลเดอมอร์ซึ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาด ไม้ทั้งสองสะท้อนผลของคาถาซึ่งกันและกัน แต่ก็ต้องแลกกับการตายของเซดริกและเกราะคุ้มกันตัวแฮร์รี่ซึ่งถูกทำลายไปโดยเลือดของเขาเอง ความไว้ใจของแฮร์รี่ยังถูกทดสอบอีกครั้งเมื่อรู้ว่าศาสตร์จารย์มู้ดดี้ที่แฮร์รี่นับถือ แท้ที่จริงแล้วเป็นผู้เสพความตายปลอมตัวมาและทำให้แฮร์รี่เกือบตกอยู่ในอันตรายสูงสุด แต่ดัมเบิลดอร์ก็ช่วยเขาไว้ได้อีกครั้ง
ต่อมาในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ แฮร์รี่เริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่พร้อมกับมีอารมณ์รุนแรงยิ่งขึ้นอีก รอนและเฮอร์ไมโอนี่มักถูกเขาตะคอกใส่ตลอดทั้งปี ในปีนี้แฮร์รี่ต้องเผชิญกับการโจมตีอย่างหนักจากสื่อมวลชนซึ่งได้รับความกดดันจากกระทรวงเวทมนตร์ เนื่องจากแฮร์รี่บอกว่าโวลเดอมอร์กลับมาในปีที่แล้ว และฮอกวอตส์ก็ถูกแทรกแซงโดยคอร์นีเลียส ฟัดจ์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ ด้วยการออกกฤษฎีกาการศึกษาออกมา รวมถึงการส่งตัวโดโลเรส อัมบริดจ์ อาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่ซึ่งกลายมาเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนใหญ่ของฮอกวอตส์ในเวลาต่อมา เธอได้สร้างความลำบากให้แก่แฮร์รี่เป็นอย่างมาก โดยทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้นักเรียนได้เรียนรู้วิชาที่เธอสอนในภาคปฏิบัติ เนื่องจากฟัดจ์กลัวว่าดัมเบิลดอร์จะจัดตั้งกองทัพเพื่อโค่นล้มเขา รวมถึงลงโทษแฮร์รี่ที่พูดว่าโวลเดอมอร์กลับมาแล้ว ยังดีที่เฮอร์ไมโอนี่เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งชั้นเรียนลับๆ ขึ้นเรียกว่ากองทัพดัมเบิลดอร์ ซึ่งสอนโดยตัวของแฮร์รี่เอง ชั้นเรียนดังกล่าวช่วยลดความกดดันในตัวแฮร์รี่ได้มากทีเดียว นอกจากนี้เขาพบว่าตนเองมีความสามารถใหม่ในการรับรู้ถึงอารมณ์ของลอร์ดโวลเดอมอร์ แต่หารู้ไม่ว่าโวลเดอมอร์นั้นก็รับรู้ถึงอารมณ์ของแฮร์รี่ด้วยซึ่งทำให้แฮร์รี่ตกอยู่ในอันตรายเพราะความสามารถนี้ในเวลาต่อมา ในขณะเดียวกันดัมเบิลดอร์ได้รวบรวมสมาชิกและจัดตั้งภาคีนกฟีนิกซ์ขึ้นมาอีกครั้ง จนกระทั่งแฮร์รี่ทราบว่าซิเรียสหายตัวไป เขาและเพื่อนๆ รวมชั้นกองทัพดัมเบิลดอร์จึงเสี่ยงชีวิตเข้าไปในกระทรวงเวทมนตร์เพื่อตามหาเขา แต่ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกับดักและแผนของลอร์ดโวลเดอมอร์ซึ่งต้องการให้แฮร์รี่นำคำพยากรณ์ที่ซีบิลล์ ทรีลอว์นีย์ทำนายไว้มาให้ แฮร์รี่ถูกบรรดาผู้เสพความตายโจมตีอีกครั้ง แต่เหล่าสมาชิกภาคีนกฟินิกซ์รวมถึงซิเรียสและดัมเบิลดอร์มาช่วยเอาไว้ เหล่าผู้เสพความตายและโวลเดอมอร์พ่ายแพ้ แต่ต้องแลกกับการสูญเสียซิเรียส แบล็กผู้เป็นที่รักยิ่งของแฮร์รี่ เหตุการณ์นี้ทำให้อารมณ์ของแฮร์รี่ตกต่ำลงอย่างมาก และเพิ่มความกดดันในตัวแฮร์รี่ที่จะต้องเอาชนะศาสตร์มืดให้ได้
http://th.wikipedia.org/wiki/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น